คนวัยทำงานถือเป็นกลุ่มคนที่ต้องรับบทหนักเรื่องงานเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญภาวะงานหนัก งานเร่ง งานด่วน จนบางครั้งทำให้เกิดความเครียดสะสมแบบไม่รู้ตัว ไหนจะพักผ่อนน้อย ขาดการทานอาหารที่มีประโยชน์และขาดการออกกำลังกาย จนถึงจุดที่เกิดภาวะสมองล้า หรือ Brain Fog ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากสมองทำงานหนักติดต่อเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดอาการสมองล้า คิดช้า มึนงง และรู้หรือไม่ว่าหากปล่อยเอาไว้นาน ๆ โรคสมองเสื่อมอาจมาทักทายก่อนวัยอันควร
3 วิธีแก้ภาวะสมองล้าให้กลับมาเริงร่าอีกครั้ง
1. ให้ความสำคัญกับการพักผ่อน
ภาวะสมองล้ามักพบมากในกลุ่มคนทำงานที่ต้องรับบทหนัก เจองานเร่งงานด่วนจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ซึ่งวิธีสุดเบสิกที่จะแก้ภาวะสมองล้าได้ คือ ให้ความสำคัญกับการพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็น การนอนหลับให้ได้วันละ 6-8 ชั่วโมง การบริหารเวลาเพื่อให้ตนเองมีเวลาว่างทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ฟังเพลง ชมภาพยนตร์ หรือเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อน เพราะช่วงเวลาพักผ่อน สมองคนเราจะปล่อยวางเรื่องเครียด เมื่อความกังวลหายไป ความเครียดก็จะน้อยลงตามไปด้วย
2. ทานอาหารบำรุงสมอง
แน่นอนว่าคนเราควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่สำหรับใครที่เผชิญปัญหานี้จำเป็นต้องพึ่งตัวช่วยอื่น เพื่อให้สมองแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การทานน้ำมันตับปลาที่ช่วยเรื่องความทรงจำและดีต่อระบบประสาท การทานแปะก๊วย ตัวช่วยให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดีขึ้นรวมถึงบริเวณสมอง ป้องกันการเสื่อมของเซลล์สมอง รวมถึงวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ไม่ว่าจะเป็น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี เป็นต้น
3. แบ่งเวลาออกกำลังกาย
นอกจากต้องเลือกทานอาหารบำรุงร่างกายและสมองแล้ว อีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่หลายคนมองข้ามคือการออกกำลังกาย การออกกำลังกายไม่เพียงทำให้ร่างกายแข็งแรงเท่านั้นแต่ระหว่างออกกำลังกายนั้น สมองจะสั่งการให้ฮอร์โมนแห่งความสุขหลั่งออกมา ทำให้ลดอาการซึมเศร้าและลดความเครียดได้ เรียกได้ว่านอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังทำให้สมองปลอดโปร่ง ความกังวลน้อยลงอีกด้วย
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เข้าข่ายเป็นภาวะสมองล้า เช่น รู้สึกไม่สดชื่นแม้นอนเพียงพอ คิดงานช้า มึนงง นอนหลับยาก ลางานบ่อย หรือไม่มีสมาธิในการทำงาน แนะนำให้รีบปรับพฤติกรรมโดยด่วน เพราะอาการสมองล้าสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ แต่หากปรับพฤติกรรมแล้วยังไม่ได้ผลควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางออก เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นอกจากโรคสมองเสื่อมจะมาเยือนเร็วแล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่น ๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดปกติจนเป็นผลให้ประจำเดือนไม่มา เป็นต้น