ไม่อยากให้งานคั่งค้าง ต้องรู้เทคนิคบริหารเวลา

ไม่อยากให้งานคั่งค้าง ต้องรู้เทคนิคบริหารเวลา

ปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีที่มีความเร็วแบบ 5G ทำให้ดูเหมือนว่าเราอยู่ในโลกที่หมุนเร็วขึ้น การแข่งขันทางธุรกิจและการงานต่าง ๆ ยิ่งต้องทำแข่งกับเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งการบริหารเวลาที่ดีจะช่วยให้มีเพิ่มจำนวนงานที่ทำได้ในแต่ละวันมากขึ้น ส่งผลให้ลดความตึงเครียดจากปัญหางานคั่งค้าง และทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานตามมา

เราจึงได้รวบรวมเทคนิคการบริหารเวลา ที่ผู้ประสบความสำเร็จและผู้นำในหลากหลายวงการปฏิบัติจนเป็นกิจวัตร มาฝากทุกท่าน ดังนี้

1. มีตารางบันทึกงานที่ต้องทำ

การบันทึกแผนงานลงตาราง ไม่ว่าในสมุด หรือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น Excel หรือใช้ Google Calendar ต่างให้ข้อดีที่ทำให้เห็นว่าแต่ละวันมีงานอะไรที่รอให้ทำ ทำให้เกิดความกระตือรือร้น และไม่ตกหล่นงานที่ต้องปฏิบัติให้ครบในแต่ละวัน

2. ใช้สมาธิกำหนดลำดับงาน

ทั้งนี้ ควรกำหนดเวลาก่อนนอนของทุกวัน วันละ 20-30 นาที สำหรับการเป็นช่วงเวลาส่วนตัว ที่จะมีสมาธิกับการวางแผนงานของวันรุ่งขึ้น โดยใส่เครื่องหมายที่แต่ละชิ้นงานว่าชิ้นใดสำคัญเป็นอันดับ 1 2 3 หรือ ตีตารางแยกประเภทเป็นงานสำคัญหรือเร่งด่วน จะทำให้การใช้เวลาทำงานเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

3. ใช้ตัวช่วยเรื่องการเดินทาง

สำหรับผู้ที่ทำงานในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพ จำเป็นต้องเผชิญกับปัญหารถติดทั้งขาไปและกลับระหว่างบ้านและที่ทำงาน ทางออกที่ช่วยให้มีเวลาและมีพลังสมองสำหรับการจัดการธุระได้ดีขึ้น คือ การใช้บริการรถรับส่งสาธารณะ เช่น แท็กซี่ มอเตอร์ไซด์ ที่ควบคุมเวลาได้ดีกว่า ทั้งลดความเครียดระหว่างการเดินทางได้อย่างมาก ที่สำคัญ ทำให้มีเวลาคิดงานหรือติดต่อธุรกิจกับทีมงาน ลูกน้อง หรือลูกค้า ได้มากยิ่งขึ้น ถึงวันละ 2-4 ชั่วโมงเลยทีเดียว

4. มอบหมายงานคนอื่น

การมอบหมายงานให้ทีมงานหรือลูกน้องที่ไว้วางใจได้ทำงานบางอย่างแทนบ้าง เป็นเทคนิคการฝึกคนให้มีความชำนาญเพื่อรับช่วงงานต่อ ทำให้ผ่อนภาระและอาจเป็นมือขวาในอนาคตที่ช่วยให้งานรุดหน้าเร็วและประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น

5. ฝึกสมาธิ

เป็นเคล็ดลับที่ทำให้มีสติอยู่กับงานตรงหน้า ลดความกังวลกับงานที่รออยู่ ทำให้ไม่เสียเวลาคิดวกวนและลดข้อผิดพลาดในการทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งเท่ากับไม่ต้องเสียเวลากลับมาแก้ไขงานที่ทำไปแล้ว งานจึงรุดหน้าได้ไวกว่าที่เคย

จะเห็นได้ว่า การใส่ใจที่คุณภาพในการใช้เวลา จะช่วยลดงานค้าง ทำงานได้ตามแผน และทำให้ผลงานมีความผิดพลาดน้อยลง ซึ่งจะช่วยลดความเครียดจากการทำงานได้ หวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้ทุกท่านได้แนวทางไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นต่อไป

รวบรวมเทคนิคการบริหารเวลา